สะอึก

“อาการสำลัก” ต้องระวังอย่างมากในผู้สูงอายุ

“อาการสำลัก” ต้องระวังอย่างมากในผู้สูงอายุ

“อาการสำลัก” ต้องระวังอย่างมากในผู้สูงอายุ “อาการสำลัก” ต้องระวังอย่างมากในผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุเป็นวัยที่ต้องให้ความสำคัญและจะต้องดูแลให้ดี เพราะผู้สูงอายุจะต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากวัยที่ชรามากแล้วทำให้ระบบต่างๆของร่างกายเริ่มเสื่อมถอยและทำงานแย่ลง เช่น แขนขามักจะอ่อนแรง บางครั้งมีอาการหน้ามืดในขณะที่เดิน หรือสายตาที่พร่ามัวมองไม่ค่อยเห็น เป็นต้น อีกหนึ่งอาการที่ต้องระวังอย่างมากในผู้สูงอายุก็คือ อาการสำลัก เมื่อถึงเวลารับประทานอาหารควรต้องนั่งเฝ้าอยู่ด้วย เนื่องจากผู้สูงอายุมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบการกลืนที่จะทำให้เกิดการอุดตันของทางเดินหายใจ หรือสะอึก ได้ และวันนี้เราได้นำเอาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับอาการสำลักในผู้สูงอายุมาฝากกัน ว่าแต่จะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเลย ทำไมต้องระวังเรื่องการสำลักอาหารในผู้สูงอายุ? สาเหตุที่ต้องระวังในเรื่องของการสำลักอาหารในผู้สูงอายุก็เพราะระบบประสาทที่ควบคุมการกลืนในผู้สูงอายุลดลง รวมไปถึงอวัยวะต่างๆในร่างกายก็เสื่อมสภาพลงด้วย ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อเกิดภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น หรืออาหารสำลักนั่นเอง โดยเฉพาะในการรับประทานอาหารที่พบบ่อยมากๆ หรือในรายที่ผู้สูงอายุใส่ฟันปลอมก็ต้องระวังเช่นกัน ลักษณะของอาการสำลักในผู้สูงอายุที่เป็นอันตรายเป็นอย่างไร? เมื่อเกิดอาการสำลักในผู้สูงอายุ สิ่งที่ควรสังเกตเลยก็คือ เมื่อสำลักแล้วจะมีอาการหายใจติดขัด ผู้ป่วยจะพยายามพูดแต่ไม่มีเสียง และมีเสียงคล้ายนกหวีดขณะหายใจ นั่นคือเกิดภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นแล้ว และที่สำคัญผู้ป่วยจะหมดสติภายใน 5 นาที ซึ่งส่งผลให้เสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้นควรรีบปฐมพยาบาลเพื่อให้เศษอาหารเหล่านั้นหลุดออกโดยเร็ว วิธีปฐมพยาบาลช่วยเหลือผู้สูงอายุที่เกิดอาการสำลัก โดยปกติแล้วการไอแรงๆ จะทำสิ่งที่อุดกั้นทางเดินหายใจหลุดออกมาได้ แต่สำหรับผู้สูงอายุมักจะไม่มีแรงในการไอ เพราะฉะนั้นจะต้องช่วยเหลือด้วยการยืนอยู่ด้านหลังของผู้ป่วย จากนั้นอ้อมมือมาประสานไว้ที่เหนือสะดือบริเวณหน้าท้อง แล้วกระแทกมือขึ้นตรงกระบังลมด้วยความรวดเร็ว ซึ่งจะต้องใช้แรงพอสมควร เพื่อนำเอาสิ่งที่อุดกั้นนั้นออกมา วิธีการป้องกันการสำลักในผู้สูงอายุ อาการสำลักมักเกิดขึ้นโดยกะทันหันไม่ทันตั้งตัว เพราะฉะนั้นทางที่ดีควรเลือกประเภทอาหารที่มีความอ่อนนิ่มให้กับผู้สูงอายุรับประทาน ควรดูแลสุขภาพเหงือกและฟันอยู่เสมอ ในรายที่มีปัญหาเรื่องของการกลืนอาหารควรพบแพทย์เพื่อหาแนวทางในการรักษา หรือเข้าฝึกการกลืนอาหารกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในรายที่ใส่ฟันปลอมต้องระวังเรื่องการสวมใส่ฟันปลอมต้องติดแน่นไม่หลุดง่าย …

“อาการสำลัก” ต้องระวังอย่างมากในผู้สูงอายุ Read More »

คนเราส่วนใหญ่จะต้องรู้จักกับอาการสะอึกอยู่แล้ว

แก้ได้!! จบปัญหาอาการ “สะอึก” แบบอยู่หมัด

แก้ได้!! จบปัญหาอาการ “สะอึก” แบบอยู่หมัด แก้ได้!! จบปัญหาอาการ “สะอึก” แบบอยู่หมัด คนเราส่วนใหญ่จะต้องรู้จักกับอาการสะอึกอยู่แล้ว ซึ่งอาหารที่ว่านี้ไม่ได้ส่งผลอันตรายใดๆ แก่ร่างกาย แต่ว่าจะสร้างความรำคาญใจได้ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดอาการสะอึกในช่วงเวลาสำคัญ เช่น ประชุม เจรจาธุรกิจ ติดต่อธุระสำคัญ เป็นต้น ซึ่งอาการสะอึกจะทำให้งานของคุณไม่ราบรื่นโดยที่คุณไม่สามารถกำหนดได้ แน่นอนว่ามันจะตามมาซึ่งอารมณ์หงุดหงิดพร้อมกับคำถามว่าเมื่อไหร่จะหยุดสะอึกเสียที? และวันนี้เราก็ได้หยิบเอาอีกหนึ่งข้อมูลที่มีความน่าสนใจอย่างมาก นั่นก็คือ วิธีการแกปัญหาอาการ “สะอึก” แบบอยู่หมัด จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปดูกันเลย กดจุดหยุดได้ อีกหนึ่งวิธีแก้อาการสะอึกก็คือ วิธีการกจุด ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลอย่างชัดเจน ใครที่ไม่เคยลองวิธีนี้ก็สามารถที่จะลองทำตามดูได้เลย ด้วยการใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้กดเข้าที่บริเวณเนินเนื้อใต้นิ้วโป้ง หรือจะเป็นการกดที่เหนือรอยหยักริมฝีปากบนก็ช่วยได้ ซึ่งวิธีการกดจดเช่นนี้จะเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของระบบประสาท ทำให้ไม่สนใจอาการสะอึกแล้วจะหยุดไปเอง กลั้นหายใจ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานและใช้กันมานานมากๆแล้ว สำหรับบางคนก็ใช่ได้ผล แต่สำหรับบางคนไม่ได้ผล ซึ่งอาการสะอึกเกิดจากกะบังลมเกิดการหดตัวอย่างกะทันหัน ทำให้การหายใจผิดปกติ เมื่อมีการกลั้นหายใจจะทำให้กะบังลมคลายตัว และมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้น ซึ่งวิธีกลั้นหายใจนี้ควรกลั้นไว้ประมาณ 10 วินาที สามารถทำซ้ำได้หากทำครั้งแรกแล้วยังไม่หาย จิบน้ำ เป็นอีกหนึ่งวิธี โดยให้คุณกลั้นหายใจแล้วค่อยๆจิบน้ำเย็น โดยกลั้นหายใจและจิบน้ำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะกลั้นไม่ไหว กลืนน้ำลายช่วยได้ หากไม่สะดวกจิบน้ำ คุณสามารถกลืนน้ำลายได้ …

แก้ได้!! จบปัญหาอาการ “สะอึก” แบบอยู่หมัด Read More »