ทำไมบางคนจึงไม่ควรกินผักโขม
ทำไมบางคนจึงไม่ควรกินผักโขม ทำไมบางคนจึงไม่ควรกินผักโขม ผักโขมเป็นผักใบเขียวที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ไนอาซิน วิตามินบี วิตามิน A, C, E, K แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ทองแดง และแมงกานีส นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระบางชนิดที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยป้องกันมะเร็ง โรคเรื้อรัง ความชราและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ผักโขมนอกจากจะมีสารอาหารมากมายแล้ว ยังมีโฟเลตที่จำเป็นต่อสตรีมีครรภ์ ขณะที่แมกนีเซียมในผักโขมช่วยรักษาระดับความดันโลหิต บำรุงสมองเพิ่มความจำ ทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องลดการอักเสบและชะลอการเกิดริ้วรอย มีเบต้าแคโรทีน ลูทีน และซีแซนทีนต่อต้านมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคอ้วน ผักโขมช่วยปกป้องระบบภูมิคุ้มกันโดยลดการตอบสนองต่อการอักเสบ ลดความเสียหายของเซลล์ และช่วยในเรื่องระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้ยังมีสเตียรอยด์ธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยเพิ่มการเผาผลาญกลูโคสและรักษาระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน แต่ทว่าผักโขมก็มีข้อเสียเช่นกัน ธาตุเหล็กและแคลเซียมสูงในผักโขม เมื่อรับประทานเข้าไปทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้เท่าที่ควร เนื่องจากผักโขมมีกรดออกซาลิกหรือออกซาเลตที่ยับยั้งไม่ให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารไปใช้ประโยชน์ เมื่อกรดออกซาลิกจับกับแร่ธาตุบางชนิดจะทำให้ไม่สามารถดูดซึมได้ ดังนั้นหากกินอาหารที่มีกรดออกซาลิกจำนวนมากอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ นอกจากนี้ระดับออกซาเลตที่สูงในผักโขมอาจทำให้เกิดนิ่วในไตและปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อกระดูก และออกซาเลตสามารถสะสมในร่างกายโดยเฉพาะในไต เมื่อออกซาเลตรวมตัวกับแคลเซียมจะทำให้เกิดนิ่วในไตได้ถึง 80% และนี่คือข้อเสียของผักโขมซึ่งอาจไม่เหมาะกับคนบางกลุ่ม แพทย์จึงไม่แนะนำให้กินอาหารที่มีออกซาเลตโดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคเกาต์ โรคข้ออักเสบ แม้ว่าร่างกายจะมีแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหารบางชนิดที่สามารถทำลายออกซาเลตโดยเฉพาะออกซาโล แบคเตอร์ ฟอร์มิเจเนส …