7 เคล็ดลับในการสลายไขมันหน้าท้อง
7 เคล็ดลับในการสลายไขมันหน้าท้อง
หากคุณมีไขมันหน้าท้องหรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นที่ท้าทายในการกำจัดให้หมดไป ลองนำเคล็ดลับทั้ง 7 นี้ไปปฏิบัติเพื่อช่วยในการสลายไขมันหน้าท้องให้เร็วขึ้น ซึ่งมีดังต่อไปนี้
1. กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
ไฟเบอร์
กินอาหารที่มีไฟเบอร์ให้มากขึ้น เพราะไฟเบอร์เป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการควบคุมน้ำหนัก ไฟเบอร์ใช้เวลาย่อยนานจึงช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณลดลง หากคุณกินอาหารที่มีน้ำตาลสูง น้ำตาลในเลือดจะพุ่งสูงขึ้น และเมื่อน้ำตาลในเลือดลดลงร่างกายจะส่งสัญญาณความหิวซึ่งทำให้คุณกินมากเกินไป
ไฟเบอร์ยังมีส่วนช่วยให้รู้สึกอิ่มและช่วยขจัดของเสียออกจากร่างกาย จึงช่วยสลายไขมันหน้าท้องได้ดี การศึกษาในปี 2544 พบว่าการบริโภคไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้เพิ่มขึ้น 10 กรัม จะช่วยลดขนาดเอวที่เพิ่มขึ้น 3.7% ดังนั้นจึงควรรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ผักที่มีสีสันสดใส ผักใบเขียว ราสเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และแบล็กเบอร์รี่ ถั่วเลนทิล และพืชตระกูลถั่ว
รวมถึงไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและระดับอินซูลิน ได้แก่ มะกอก ถั่ว ธัญพืช อาโวคาโด น้ำมันมะกอก น้ำมันอะโวคาโด น้ำมันถั่วลิสง เพราะไขมันที่ดีต่อสุขภาพจะช่วยต่อสู้กับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น แต่พวกมันมีไขมันมากดังนั้นจึงควรใช้เท่าที่จำเป็น
โอเมก้า 3
อาหารที่มีโอเมก้า 3 สูง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด และภาวะสุขภาพที่รุนแรงอื่น ๆ นอกจากนี้การศึกษาบางชิ้นยังแสดงให้เห็นว่าเป็นส่วนสำคัญของอาหารลดน้ำหนัก และยังปรับปรุงความไวของอินซูลินช่วยเผาผลาญแคลอรี่ลดการผลิตคอร์ติซอลในร่างกายให้พลังงานมากขึ้นช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ กรดไขมันโอเมก้า 3 พบในปลาจึงแนะนำให้รับประทานปลา 2-3 มื้อต่อสัปดาห์ เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน หรือปลากะตัก เพื่อเป็นอาหารลดความอ้วน
โปรตีนลีน
โปรตีนให้ประโยชน์มากกว่าการช่วยสร้างกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังช่วยในการลดการเพิ่มของไขมันโปรตีนยังช่วยลดความอยากอาหาร ช่วยให้ระบบย่อยอาหารเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าไขมันหรือคาร์โบไฮเดรต ดังนั้น โปรตีนจึงช่วยลดไขมันหน้าท้องได้ เพราะกล้ามเนื้อเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าไขมันในร่างกายถึง 5 เท่า ดังนั้นยิ่งคุณมีกล้ามเนื้อมากเท่าไหร่คุณก็จะยิ่งผอม แนะนำให้รับประทานโปรตีนโดยใช้เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน 3-4 ออนซ์ต่อหนึ่งมื้อ เพื่อรักษาน้ำหนัก และหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป ขนมหวานน้ำตาลสูง
2. ยกน้ำหนัก
คนส่วนใหญ่นิยมออกกำลังกายในการยกน้ำหนักเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ แต่การลดน้ำหนักจะปล่อยฮอร์โมน เช่น เทสโทสเตอโรน และฮอร์โมนการเจริญเติบโตของมนุษย์ที่ส่งเสริมการลดไขมัน นอกจากนี้การศึกษาล่าสุดยังแสดงให้เห็นการยกน้ำหนักสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้มากมาย เพื่อการลดไขมันหน้าท้องอย่างมีประสิทธิภาพคุณสามารถออกกำลังกายด้วยการยกน้ำหนัก 2 วันต่อสัปดาห์
3. ทำคาร์ดิโอ
นอกจากการฝึกความแข็งแรงแล้วคุณยังต้องออกกำลังกายแบบแอโรบิคด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้ทำกิจกรรมคาร์ดิโอ 3 เท่าต่อสัปดาห์ โดยผสมผสานระหว่างคาร์ดิโอและเวท
4. ลดการบริโภคแอลกอฮอล์
เพราะการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปอาจนำไปสู่การมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากแอลกอฮอล์ให้แคลอรี่สูง และเมื่อคุณเริ่มต้นดิ่มมันก็ปฏิเสธไม่ได้ที่จะบริโภคกับแกล้มมากขึ้น
5. ดื่มน้ำให้มากขึ้น
การดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นส่วนสำคัญของแผนการลดไขมันหน้าท้องเพื่อสุขภาพ เพราะการดื่มน้ำช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ มีการศึกษาที่พบว่าการดื่มน้ำ 16 ออนซ์ต่อวันช่วยเผาผลาญอาหารเพิ่มขึ้น 30% ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญ ซึ่งจะช่วยสลายไขมันหน้าท้องได้ดี
6. ลดความเครียด
มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าการลดความเครียดสามารถลดไขมันหน้าท้องของคุณได้ เพราะเมื่อคุณเครียดน้อยลงร่างกายจะผลิตคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดน้อยลง ซึ่งมีความสัมพันธ์กับไขมันส่วนเกิน และหากคุณมีความเครียดร่างกายมีแนวโน้มที่จะบริโภคอาหารมากเกินไปซึ่งนำไปสู่การสะสมไขมันเพิ่มขึ้น
7. นอนหลับอย่างมีคุณภาพ
การนอนน้อยเกินไปเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพหลายประการ การศึกษาพบว่าผู้ใหญ่อายุต่ำกว่า 40 ปี ที่นอน 5 ชั่วโมงหรือน้อยกว่านั้นในหนึ่งคืนจะมีไขมันบริเวณหน้าท้องเพิ่มขึ้น แต่การนอนมากกว่า 8 ชั่วโมง ก็เพิ่มไขมันหน้าท้องเช่นกัน ดังนั้น จึงแสดงให้เห็นว่าร่างกายต้องการพักผ่อนอย่างมีคุณภาพและมีความสมดุล ซึ่งช่วงเวลาในการนอนที่เหมาะสมคือ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน
อย่างไรก็ตาม เคล็ดลับทั้ง 7 นี้ จะช่วยส่งเสริมการลดไขมันหน้าท้องอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคุณอาจจะเริ่มต้นทำมันอย่างค่อยเป็นค่อยไป