Month: September 2020

น้ำมันรำข้าว

“น้ำมันรำข้าว” ของดี มีประโยชน์ อยากให้ลอง!!

“น้ำมันรำข้าว” ของดี มีประโยชน์ อยากให้ลอง “น้ำมันรำข้าว” ของดี มีประโยชน์ อยากให้ลอง สุขภาพ คือสิ่งที่สำคัญและเป็นสิ่งที่หลายคนจะต้องให้ความสนใจและใส่ใจดูแล สุขภาพดีสามารถสร้างได้ด้วยตัวของคุณเองไม่ว่าจะเป็น การออกกำลังกาย หรือการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ก็ล้วนแล้วแต่เสริมสร้างสุขภาพที่ดีด้วยกันทั้งสิ้น นอกจากกิจกรรมเหล่านี้ที่จะช่วยทำให้สุขภาพของคุณดีขึ้นแล้วก็ยังมีอาหารเสริมซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วย บำรุงและฟื้นฟูสุขภาพของคุณได้อีกทางหนึ่ง อาหารเสริมในปัจจุบันมีให้เลือกซื้อเลือกรับประทานกันมากมายแต่ทั้งนี้ก็ควรที่จะเลือกซื้อและเลือกกิน สิ่งที่ส่งผลดีต่อร่างกายจะดีที่สุด ซึ่งวันนี้เราได้นำเอา ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับน้ำมันรำข้าว ซึ่งเป็นตัวเลือกที่หลายคนให้ความสนใจด้วยการนำมาประกอบอาหารมาแนะนำกัน ว่าแต่น้ำมันรำข้าวจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้นไปดูกันเลย ประโยชน์ของน้ำมันรำข้าวที่น่าสนใจ มีส่วนช่วยต้านเซลล์มะเร็ง มีการทดลองพบว่าในน้ำมันรำข้าวนั้นมีสารประกอบที่ชื่อว่า โทโคไตรอีนอล ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติสำคัญในการปกป้องเซลล์ในร่างกายจากรังสีไอออไนซ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดเซลล์มะเร็ง ดังนั้นการรับประทานน้ำมันรำข้าวอย่างต่อเนื่อง จะทำให้สุขภาพร่างกายสามารถต้านทานเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยบำรุงดูแลสุขภาพหัวใจ มีการทดลองพบว่า ผู้ที่ได้รับน้ำมันรำข้าวเป็นประจำปริมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน ในระยะเวลาหนึ่ง พบว่า ระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน และเป็นผลดี เพราะถ้าหากในร่างกายมีระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีสูงเกินไป จะส่งผลทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจนั่นเอง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ การรับประทานน้ำมันรำข้าวมีส่วนช่วยในการต้านทานอินซูลิน ซึ่งอินซูลินเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานประเภท 2 ได้ ทางที่ดีไม่ควรปล่อยให้ในร่างกายมีน้ำตาลมากเกินไป นอกจากจะไม่ดีต่อสุขภาพแล้วยังทำให้เป็นโรคอ้วนได้อีกด้วย ช่วยต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ในน้ำมันรำข้าวมีสารที่ชื่อว่า โอไรซานอล ซึ่งเป็นสารที่มีส่วนช่วยในการยับยั้ง และต่อต้านปฏิกิริยาออกซิเดชันในร่างกาย และช่วยลดการอักเสบภายในร่างกายได้ ผลข้างเคียงที่ต้องระวังและอาจเกิดขึ้นได้เมื่อรับประทานน้ำมันรำข้าว สำหรับอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อรับประทานน้ำมันรำข้าวอาจจะเกิดขึ้นได้น้อยมาก …

“น้ำมันรำข้าว” ของดี มีประโยชน์ อยากให้ลอง!! Read More »

ลดความอ้วน

ลดความอ้วนด้วยวิธีง่ายๆ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้น

ลดความอ้วนด้วยวิธีง่ายๆ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้น ลดความอ้วนด้วยวิธีง่ายๆ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้น การดูแลสุขภาพคือสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะถ้าหากเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้นมามันไม่สนุกเอาเสียเลย กินอะไรก็ไม่อร่อย แถมยังไม่สามารถทำกิจกรรมบางอย่างได้ตามใจต้องการอีกด้วย ในผู้ที่กำลังประสบปัญหาน้ำหนักตัวมากเกินไปมักจะมีผลเสียในเรื่องของสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ไม่เหมือนกับผู้ที่มีการดูแลตนเองอย่างดี และวันนี้เราก็ได้หยิบเอาเรื่องราวที่น่าสนใจของวิธีการลดความอ้วน ด้วยวิธีง่ายๆ ที่คุณเองก็สามารถทำได้มาแนะนำกัน ใครที่อยากดูแลสุขภาพของตนเองไปพร้อมๆกับวิธีการลดความอ้วนบอกเลยว่าไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด เพราะข้อมูลที่เรานำมาฝากกันมีประโยชน์อย่างมาก อดอาหารไม่ใช่ทางออกที่ดี บางคนใช้วิธีการอดอาหารเพื่อเป็นการลดน้ำหนัก แต่ว่ามันไม่ช่วยอะไรเลย เพราะเมื่อคุณอดอาหาร แต่ร่างกายยังคงต้องการใช้พลังงานจากสารอาหารเหล่านั้นอยู่จะทำให้คุณรู้สึกหิว เมื่อถึงเวลา และถ้าคุณอดอาหารติดต่อกันจะทำให้ร่างกายของคุณนั้นต้องการอาหารเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม และนั่นจะส่งผลให้คุณทานอาหารมากกว่าเดิม ทางที่ดีคุณควรรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ แต่ละมื้อควรจะเน้นเป็นอาหารที่ให้พลังงานต่ำ เน้นเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ จะดีกว่า โดยเฉพาะในมื้อเย็นไม่ควรงดเสียทีเดียว เพราะอาจทำให้คุณรู้สึกหิวกลางดึกได้และจะทำให้คุณต้องตื่นขึ้นมารับประทานอาหารตอนดึก ซึ่งมันไม่ดีแน่ๆ เคี้ยวช้าๆ ไม่ต้องรีบ หากลองสังเกตให้ดีผู้ที่เคี้ยวอาหารเร็วๆ ไม่กี่ครั้งจะสามารถรับประทานอาหารได้มากกว่าคนที่เคี้ยวอย่างช้าๆ เพราะฉะนั้นถ้าหากคุณอยากลดน้ำหนักก็ควรเปลี่ยนนิสัยการเคี้ยวอาหารให้ช้าลงกว่าเดิม และใช้เวลาในการรับประทานอาหารให้ช้ากว่าเดิมก็จะช่วยทำให้คุณรู้สึกอิ่มเร็วขึ้นได้ จำกัดปริมาณอาหารด้วยการใช้ภาชนะเล็กๆ โดยปกติแล้วเราจะตักข้าวใส่จานและรับประทาน ซึ่งนั่นทำให้เรารับประทานอาหารในระดับปกติ หรือมากกว่าเดิม ทางที่ดีหากคุณต้องการลดน้ำหนักคุณควรตักข้าวใส่ในภาชนะใบเล็กๆ เพื่อที่จะจำกัดปริมาณอาหารให้น้อยลงอย่างได้ผล ควรรับประทานอาหารอย่างเดียว คุณไม่ควรที่จะรับประทานอาหารไปด้วยและทำกิจกรรมอื่นๆ ไปด้วย เช่น ดูหนัง เล่นโทรศัพท์ เป็นต้น เพราะจะทำให้คุณทานอาหารมากขึ้นกว่าเดิม โดยที่คุณไม่รู้ตัว เพราะความเพลิดเพลิน เพราะฉะนั้นพยายามรับประทานอาหารอย่างเดียว …

ลดความอ้วนด้วยวิธีง่ายๆ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้น Read More »

บริจาคเลือด

“บริจาคเลือด” สุขใจทั้งผู้ให้ และผู้รับ

“บริจาคเลือด” สุขใจทั้งผู้ให้ และผู้รับ “บริจาคเลือด” สุขใจทั้งผู้ให้ และผู้รับ ในชีวิตเรานั้นการที่เราได้มอบสิ่งดีๆให้กับผู้อื่น จะทำให้เรารู้สึกดีใจและสบายใจ ซึ่งทางฝ่ายผู้รับก็มีความสุขใจเช่นกัน การให้คือสิ่งดีๆที่เราควรทำบ้างเมื่อเรามีโอกาส การให้ไม่มีรูปแบบหรือข้อจำกัด ซึ่งการบริจาคเลือดก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งการให้ที่ได้บุญกุศล เพราะการบริจาคเลือดเป็นการช่วยเหลือและต่ออายุให้กับผู้อื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างมาก และวันนี้เราได้หยิบเอาเรื่อราวที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มักบริจาคเลือดอยู่เป็นประจำมาฝากกัน ว่าในการบริจาคเลือดนั้นมีข้อดีต่อร่างกายของผู้ให้อย่างไรบ้าง สำหรับใครที่ชอบบริจาคเลือดเป็นประจำอยู่ควรรู้อย่าพลาดเด็ดขาด สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นกว่าเดิม ผู้ที่บริจาคเลือดอยู่เป็นประจำจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมากกว่าผู้ที่ไม่เคยบริจาคเลือดเลย เพราะระบบไหลเวียนของเลือดนั้นจะดีขึ้นกว่าเดิม มีออร่า หน้าใสปิ้ง ผู้ที่บริจาคเลือดอยู่เสมอจะมีผิวพรรณที่เปล่งปลั่ง สดใส สวยงาม หน้าใส รูปร่างดีขึ้นกว่าเดิม มีน้ำมีนวล ห่างไกลโรค ผู้ที่บริจาคเลือดอยู่เป็นประจำนั้นมีแนวโน้มว่าจะเป็นผู้ที่มีอายุยืน และที่สำคัญเป็นผู้ที่ห่างไกลจากโรคมะเร็งต่างๆ เช่น มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น การเตรียมตัวเพื่อเข้าบริจาคเลือด เมื่อรู้ว่าจะต้องไปบริจาคเลือดควรจะต้องเข้านอนให้ตรงเวลาตามปกติ เพื่อพักผ่อนให้เพียงพออย่างเต็มที่ ในคืนก่อนที่จะมาบริจาคเลือด สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี ไม่อยู่ระหว่างการเป็นไข้ หรือไข้หวัด ในรายที่มีการรับประทานยาปฏิชีวนะจะต้องหยุดรับประทานยามาแล้วอย่างน้อย 7 วัน พยายามหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู เป็นต้น เนื่องจากจะทำให้พลาสมามีสีขาวขุ่น ซึ่งไม่สามารถนำไปรักษาผู้ป่วยได้นั่นเอง ทางที่ดีควรงดไปก่อนจ้า ดื่มน้ำก่อนเข้ารับบริจาคเลือด …

“บริจาคเลือด” สุขใจทั้งผู้ให้ และผู้รับ Read More »

เคล็ดไม่ลับ!! ใช้ชีวิตอย่างไรให้มีอายุยืนยาว

เคล็ดไม่ลับ!! ใช้ชีวิตอย่างไรให้มีอายุยืนยาว

เคล็ดไม่ลับ!! ใช้ชีวิตอย่างไรให้มีอายุยืนยาว เคล็ดไม่ลับ!! ใช้ชีวิตอย่างไรให้มีอายุยืนยาว ไม่ว่าใครก็อยากมีชีวิตที่ดี อยากใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวและคนที่เรารักไปนานๆ แต่พฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันนี้ไม่ค่อยที่จะดีสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะสิ่งต่างๆรอบตัวที่มีความอันตรายเพิ่มมากขึ้น โรคภัยก็มีความหลากหลายและรุนแรงเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังมีสิ่งล่อตาล่อใจให้ทำจนเสียพฤติกรรมได้ แต่สำหรับคนบางกลุ่มก็เริ่มที่จะให้ความสนใจและใส่ใจในเรื่องของสุขภาพมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับวันนี้เราได้หยิบเอาเรื่องราวที่น่าสนใจของวิธีที่จะช่วยทำให้ชีวิตของคุณยืนยาวได้มาฝากกัน ลองไปดูกันซิว่าจะมีวิธีอย่างไรบ้าง หยุดรับประทานอาหารแปรรูป การรับประทานอาหารที่สด สะอาด และมีประโยชน์ คือสิ่งที่คุณควรทำ การรับประทานอาหารแปรรูปจะทำให้ร่างกายของคุณนั้นได้รับโซเดียม ไขมันอิ่มตัว และน้ำตาลเพิ่มมากยิ่งขึ้น แต่กลับได้กากใย เส้นใย และสารอาหารน้อยลงกว่าเดิม เพราะฉะนั้นทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงเสียจะดีกว่า แล้วหันมารับประทานอาหารที่มีกากใย เส้นใยสูงจะดีกว่า และมันจะดียิ่งขึ้นไปอีกถ้าคุณสามารถปรุงอาหารเหล่านั้นได้เองโดยไม่ต้องซื้อ เพราะจะได้อาหารที่ใหม่ สด สะอาด และถูกปากถูกใจอีกด้วย เลิกสูบบุหรี่ ผู้ที่สูบบุหรี่ติดต่อกันมานานต่อเนื่องก็อาจจะเลิกยากสักหน่อย แต่คุณรู้หรือไม่ว่าถ้าหากว่าคุณสามารถเลิกบุหรี่ได้สุขภาพร่างกายของคุณจะดีขึ้นเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ความดันโลหิตและการไหลเวียนของเลือดในร่างกายก็จะดีขึ้นอีกด้วย ไม่เพียงแต่ตัวคุณเองที่จะได้ประโยชน์จากการเลิกสูบบุหรี่แล้ว คนรอบข้างหรือคนที่เรารักก็จะปลอดภัยตามไปด้วย เพราะไม่ต้องทนกับกลิ่นบุหรี่ที่ติดมากับเสื้อผ้า ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจและปอดได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเป็นโรคภูมิแพ้ ออกกำลังกาย แน่นอนว่าการออกกำลังกายจะช่วยทำให้ระบบต่างๆภายในร่างกายทำงานเป็นปกติ ระบบเลือดจะไหลเวียนดีขึ้น ระบบการย่อยทำงานเป็นปกติ และระบบขับถ่ายก็ยังดีตามไปด้วย บางครั้งคุณอาจไม่ต้องออกกำลังกายอย่างหักโหมหรือใช้เวลานาน เพียงแค่คุณเดินเร็วสัก 10 นาที ก็ช่วยทำให้ร่างกายได้ออกกำลังกายได้แล้ว พยายามอย่าเครียด เพราะอารมณ์ส่งผลต่อชีวิตเราอย่างมาก เมื่อเราเครียดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนความเครียดในร่างกายก็จะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลต่อหัวใจ …

เคล็ดไม่ลับ!! ใช้ชีวิตอย่างไรให้มีอายุยืนยาว Read More »

“นอนน้อย” ต้องระวัง อย่าคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา

“นอนน้อย” ต้องระวัง อย่าคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา

“นอนน้อย” ต้องระวัง อย่าคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา “นอนน้อย” ต้องระวัง อย่าคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา การพักผ่อนที่เพียงพอคือสิ่งที่ร่างกายต้องการ ในบางช่วงชีวิตโดยเฉพาะช่วงวัยรุ่นหรือวัยทำงานที่มักจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการนอนพักผ่อน บอกเลยว่าคุณพลาดอย่างมาก เพราะนั่นคือการทำลายสุขภาพแบบต่อเนื่อง แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อสุขภาพของคุณโดยที่คุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว และวันนี้เราได้หยิบเอาเรื่องราวที่น่าสนใจของผลเสียที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ที่นอนพักผ่อนไม่เพียงพอทางด้านสุขภาพมาฝากกัน ใครที่มักจะนอนน้อย นอนไม่พออยู่เป็นประจำควรทราบ และควรจะต้องปรับปรุงพฤติกรรมการนอนของตนเองให้ปกติจะดีที่สุด ลองไปดูกันซิว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการนอนน้อยมีอะไรบ้าง ระบบประสาทและสมองทำงานไม่เต็มที่ อย่างที่เราทราบกันดีว่าสมองคือสิ่งที่สั่งการและควบคุมทุกส่วนของร่างกาย หากสมองทำงานไม่เต็มที่หรือไม่มีการตอบสนอง อวัยวะส่วนต่างๆของร่างกายก็จะทำงานไม่เต็มที่และมีอาการรวนไปทั้งระบบ โดยมีการวิจัยออกมาแล้วว่า คนเราที่นอนน้อยกว่า 7-8 ชั่วโมง จะส่งผลให้ร่างกายสร้างโปรตีนชนิดหนึ่งขึ้นมาลายเซลล์สมอง นอกจากนี้แล้วเมื่อสมองไม่ได้รับการพักผ่อนก็จะแสดงอาการคือ มึนงง เบลอๆ ตอบสนองช้า ไม่มีสมาธิ แถมยังมีผลต่อการจดจำสิ่งต่างๆอีกด้วย มีผลต่อเรื่องของการจดจำ เมื่อสมองไม่ได้รับการพักผ่อนเท่าที่ควรก็จะส่งผลต่อการจดจำโดยตรง เพราะร่างกายไม่ได้พักผ่อน ส่งผลให้ระบบประสาททางด้านกระบวนการคิดมีประสิทธิภาพลดลง การคิด การใช้เหตุและผลลดลงไปมาก ทำให้ขี้หลงขี้ลืมบ่อยๆ และที่สำคัญมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคความจำเสื่อมหรืออัลไซเมอร์อีกด้วย อารมณ์ไม่ปกติ ร่างกายที่ขาดการพักผ่อน ไม่ได้ซ่อมแซมตัวเอง ก็จะเกิดความเหนื่อยล้า ส่งผลต่ออารมณ์โดยตรง เมื่อมีสิ่งใดมากระทบจิตใจเพียงเล็กน้อยก็จะแสดงอาการทันที เช่น หงุดหงิด อารมณ์เสีย มีความอดทนต่ำ ขาดสมาธิ และมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าได้ด้วย อ้วนง่ายน้ำหนักขึ้น ด้วยระบบการเผาพลาญที่ทำงานผิดปกติทำให้ระบบร่างกายรวน ถึงแม้ว่าจะกินปกติ แต่น้ำหนักกลับขึ้นและอ้วนมากขึ้น …

“นอนน้อย” ต้องระวัง อย่าคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา Read More »

“อาการสำลัก” ต้องระวังอย่างมากในผู้สูงอายุ

“อาการสำลัก” ต้องระวังอย่างมากในผู้สูงอายุ

“อาการสำลัก” ต้องระวังอย่างมากในผู้สูงอายุ “อาการสำลัก” ต้องระวังอย่างมากในผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุเป็นวัยที่ต้องให้ความสำคัญและจะต้องดูแลให้ดี เพราะผู้สูงอายุจะต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากวัยที่ชรามากแล้วทำให้ระบบต่างๆของร่างกายเริ่มเสื่อมถอยและทำงานแย่ลง เช่น แขนขามักจะอ่อนแรง บางครั้งมีอาการหน้ามืดในขณะที่เดิน หรือสายตาที่พร่ามัวมองไม่ค่อยเห็น เป็นต้น อีกหนึ่งอาการที่ต้องระวังอย่างมากในผู้สูงอายุก็คือ อาการสำลัก เมื่อถึงเวลารับประทานอาหารควรต้องนั่งเฝ้าอยู่ด้วย เนื่องจากผู้สูงอายุมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบการกลืนที่จะทำให้เกิดการอุดตันของทางเดินหายใจ หรือสะอึก ได้ และวันนี้เราได้นำเอาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับอาการสำลักในผู้สูงอายุมาฝากกัน ว่าแต่จะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกันเลย ทำไมต้องระวังเรื่องการสำลักอาหารในผู้สูงอายุ? สาเหตุที่ต้องระวังในเรื่องของการสำลักอาหารในผู้สูงอายุก็เพราะระบบประสาทที่ควบคุมการกลืนในผู้สูงอายุลดลง รวมไปถึงอวัยวะต่างๆในร่างกายก็เสื่อมสภาพลงด้วย ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อเกิดภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น หรืออาหารสำลักนั่นเอง โดยเฉพาะในการรับประทานอาหารที่พบบ่อยมากๆ หรือในรายที่ผู้สูงอายุใส่ฟันปลอมก็ต้องระวังเช่นกัน ลักษณะของอาการสำลักในผู้สูงอายุที่เป็นอันตรายเป็นอย่างไร? เมื่อเกิดอาการสำลักในผู้สูงอายุ สิ่งที่ควรสังเกตเลยก็คือ เมื่อสำลักแล้วจะมีอาการหายใจติดขัด ผู้ป่วยจะพยายามพูดแต่ไม่มีเสียง และมีเสียงคล้ายนกหวีดขณะหายใจ นั่นคือเกิดภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นแล้ว และที่สำคัญผู้ป่วยจะหมดสติภายใน 5 นาที ซึ่งส่งผลให้เสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้นควรรีบปฐมพยาบาลเพื่อให้เศษอาหารเหล่านั้นหลุดออกโดยเร็ว วิธีปฐมพยาบาลช่วยเหลือผู้สูงอายุที่เกิดอาการสำลัก โดยปกติแล้วการไอแรงๆ จะทำสิ่งที่อุดกั้นทางเดินหายใจหลุดออกมาได้ แต่สำหรับผู้สูงอายุมักจะไม่มีแรงในการไอ เพราะฉะนั้นจะต้องช่วยเหลือด้วยการยืนอยู่ด้านหลังของผู้ป่วย จากนั้นอ้อมมือมาประสานไว้ที่เหนือสะดือบริเวณหน้าท้อง แล้วกระแทกมือขึ้นตรงกระบังลมด้วยความรวดเร็ว ซึ่งจะต้องใช้แรงพอสมควร เพื่อนำเอาสิ่งที่อุดกั้นนั้นออกมา วิธีการป้องกันการสำลักในผู้สูงอายุ อาการสำลักมักเกิดขึ้นโดยกะทันหันไม่ทันตั้งตัว เพราะฉะนั้นทางที่ดีควรเลือกประเภทอาหารที่มีความอ่อนนิ่มให้กับผู้สูงอายุรับประทาน ควรดูแลสุขภาพเหงือกและฟันอยู่เสมอ ในรายที่มีปัญหาเรื่องของการกลืนอาหารควรพบแพทย์เพื่อหาแนวทางในการรักษา หรือเข้าฝึกการกลืนอาหารกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในรายที่ใส่ฟันปลอมต้องระวังเรื่องการสวมใส่ฟันปลอมต้องติดแน่นไม่หลุดง่าย …

“อาการสำลัก” ต้องระวังอย่างมากในผู้สูงอายุ Read More »

รู้หรือไม่!! เปลือกส้มก็มีประโยชน์

รู้หรือไม่!! เปลือกส้มก็มีประโยชน์

รู้หรือไม่!! เปลือกส้มก็มีประโยชน์ รู้หรือไม่!! เปลือกส้มก็มีประโยชน์ ส้ม เป็นผลไม้ที่บ้านเรานิยมปลูกและนิยมรับประทานกันเป็นอย่างมาก ส้มเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง มีรสชาติอร่อย สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป ในส่วนของราคาก็ไม่แพงเกินไป หลายคนจึงนิยมเลือกซื้อส้มมารับประทานเป็นผลไม้หลักหลังทานข้าวเสร็จ การรับประทานส้มเป็นประจำจะช่วยทำให้คุณห่างไกลโรคหวัดได้เป็นอย่างดี นอกจากเนื้อส้มหรือน้ำส้มที่มีประโยชน์แล้ว เปลือกส้ม ก็มีประโยชน์เช่นกัน โดยปกติแล้วเราจะปลอกเปลือกส้มออกก่อนแล้วรับประทานเนื้อข้างใน แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเปลือกส้มก็มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเช่นกัน  ไปดูกันซิว่าเปลือกส้มนั้นมีประโยชน์ที่น่าสนใจอะไรบ้าง ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายสบายใจ ส้มมีคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องของช่วยลดความเครียด ลดความวิตกกังวล การดื่มน้ำส้ม หรือได้กลิ่นน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกส้มจะช่วยทำให้คุณรู้สึกสบายผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น วิธีง่ายๆเลยก็คือ นำเอาเปลือกส้มมาคั้นให้มีน้ำมันหอมระเหยออกมา จากนั้นก็นำมาสูดดมได้เลย ช่วยบำรุงกระดูกและฟันได้ เนื่องจากในส้มนั้นเต็มไปด้วยวิตามินซีและในเปลือกส้มมีแคลเซียมสูงมาก ซึ่งจะช่วยบำรุงกระดูกและฟันได้นั่นเอง ช่วยทำให้นอนหลับสบาย ในน้ำมันหอมระเหยจะมีกลิ่นซิตรัสที่มีผลต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สบาย รู้สึกปลอดโปร่ง ทำให้นอนหลับง่ายขึ้นกว่าเดิม ช่วยบำรุงสายตาได้ดี เพราะในเปลือกส้มมีเบต้าแคโรทีน และมีวิตามินเอที่มีส่วนช่วยในการมองเห็น การรับประทานเปลือกส้มจะช่วยทำให้ระบบการมองเห็นของคุณทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิม ช่วยรักษาสิวอักเสบได้ดี เพราะมีสารที่ชื่อว่า ซิตรัส  เจอรานิออล และไลนาโลออล ซึ่งทั้ง 3 ชนิดนี้ มีคุณสมบัติในการทำความสะอาด ซึ่งวิธีทำก็ง่ายๆ เพียงแค่นำเปลือกส้มล้างสะอาด จากนั้นนำไปบดให้ละเอียดผสมกับน้ำอุ่นแล้วนำมาพอกทิ้งไว้ที่สิวอักเสบ หรือบริเวณที่เป็นสิวผด ประมาณ 20 นาที …

รู้หรือไม่!! เปลือกส้มก็มีประโยชน์ Read More »

ไส้เลื่อน

“โรคไส้เลื่อน” หญิงหรือชายก็เป็นได้

“โรคไส้เลื่อน” หญิงหรือชายก็เป็นได้ โรคไส้เลื่อน” หญิงหรือชายก็เป็นได้ อาการเจ็บป่วยในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบแล้วแต่สุขภาพของแต่ละคน บางคนที่มีร่างกายแข็งแรง เมื่อมีอาการเจ็บป่วยก็จะเป็นไม่มาก และสามารถหายได้อย่างรวดเร็ว แต่ในรายที่มีร่างกายอ่อนแอก็จะเป็นหนัก และรักษาให้หายได้ยาก บางครั้งมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆตามมาอีกด้วย เพราะฉะนั้นการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ คือสิ่งที่คุณควรทำอย่างยิ่ง และถ้าพูดถึงอาการไส้เลื่อน หลายคนมักจะคิดว่าเกิดขึ้นได้เฉพาะในผู้ชายเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว ไส้เลื่อน สามารถเกิดขึ้นได้ในผู้หญิงเช่นกัน แต่ว่าจะมีความแตกต่างกันออกไป ว่าแต่จะมีรายละเอียดอะไรที่น่าสนใจกันบ้างนั้นไปดูกันเลย โรคไส้เลื่อน เกิดจากอะไร? โรคไส้เลื่อน เกิดจากความผิดปกติของผนังช่องท้องที่มีความอ่อนแรงมาตั้งแต่กำเนิด หรือผู้ที่เคยผ่านการผ่าตัดที่ทำให้บริเวณของผนังหน้าท้องบริเวณนั้นเกิดความอ่อนแอ หรือในบางครั้งเกิดจากแรงดันที่ผิดปกติในบริเวณหนังหน้าท้องที่มีความรุนแรง เช่น ไอ จาม ยกของหนัก ส่งผลให้ลำไส้หรือไขมันที่อยู่ในบริเวณนั้นเคลื่อนที่ไปอยู่ผิดตำแหน่ง อาการของโรคไส้เลื่อน โดยปกติแล้วโรคไส้เลื่อนจะไม่มีอาการอะไรที่ชัดเจนมากนัก แต่ต้องอาศัยการสังเกตจากลักษณะภายนอกที่จะช่วยทำให้เห็นอาการชัดขึ้น นั่นก็คือ มีก้อนที่มีลักษณะตุงและนูนยื่นออกมาจากบริเวณที่เคยผ่าตัด หรือที่บริเวณขาหนีบ เมื่อพบกับก้อนลักษณะดังกล่าวแต่ไม่รีบรักษาก็จะเริ่มมีอาการคือ อาการจุก และเริ่มมีอาการเจ็บที่บริเวณก้อนดังกล่าวและถ้าหากอาการรุนแรงถึงขั้นรู้สึกแน่นท้อง และปวดแสบปวดร้อน อาการเช่นนี้อันตรายต้องรีบผ่าตัดโดยด่วน ไส้เลื่อนเกิดขึ้นที่บริเวณใดบ้างในร่างกาย โดยปกติแล้วไส้เลื่อนสามารถเกิดขึ้นได้หลายส่วนในร่างกาย เช่น ไส้เลื่อนที่บริเวณสะดือ จะพบก้อนนูนที่บริเวณสะดือ หรือหน้าท้อง นอกจากนี้ยังมีไส้เลื่อนที่บริเวณขาหนีบทั้งซ้ายและขวา หรือที่บริเวณถุงอัณฑะ ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของผนังช่องท้องตั้งแต่เกิดนั่นเอง และแน่นอนว่าไส้เลื่อนที่บริเวณขาหนีบเป็นส่วนที่พบบ่อยที่สุด จึงเป็นสาเหตุทำให้เราเข้าใจว่าอาการไส้เลื่อนเกิดขึ้นเฉพาะในผู้ชาย โรคไส้เลื่อนเกิดขึ้นได้ในผู้หญิงหรือไม่? ความจริงแล้วในผู้หญิงก็มีโอกาสที่จะเป็นไส้เลื่อนได้เช่นกัน …

“โรคไส้เลื่อน” หญิงหรือชายก็เป็นได้ Read More »

งูสวัด

ทำความรู้จัก!! โรคงูสวัด เป็นแล้วสามารถเป็นได้อีก

ทำความรู้จัก!! โรคงูสวัด เป็นแล้วสามารถเป็นได้อีก ทำความรู้จัก!! โรคงูสวัด เป็นแล้วสามารถเป็นได้อีก การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ คือสิ่งที่เราควรทำ เพราะถ้าหากเราปล่อยให้ร่างกายอ่อนแอก็จะทำให้เกิดโรคต่างๆมากมาย ในรายที่โชคดีก็จะเป็นโรคธรรมดา เช่น ไข้หวัด ไอ จาม มีน้ำมูกเล็กน้อย แต่ในรายที่โชคร้ายไม่เคยดูแลสุขภาพของตัวเองเลยก็อาจจะเจอกับโรคร้ายแรงที่เข้ามาเยือนโดยที่คุณไม่ทันได้ตั้งตัว และวันนี้เราก็ได้นำเอาอีกหนึ่งโรคที่ควรรู้จัก และมันมักจะหลบอยู่ตามปมประสาท รอวันกลับมาแสดงอาการอีกครั้งเมื่อร่างกายของคุณอ่อนแอ นั่นก็คือ โรคงูสวัด ว่าแต่จะรายละเอียดอะไรบ้างที่น่าสนใจไปดูกันเลยจ้า โรคงูสวัด คืออะไร? โรคงูสวัด เกิดจากเชื้อไวรัสตัวเดียวกันกับอีสุกอีใส ซึ่งเมื่อเป็นแล้วไวรัสจะหลบอยู่ตามปมประสาทในร่างกาย เมื่อร่างกายอ่อนแอก็จะแสดงอาการออกมาอีกครั้ง อาการของโรคงูสวัด แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้ ระยะแรก ผู้ป่วยจะมีอาการปวดเมื่อยตามส่วนต่างๆของร่างกาย และยังมีอาการปวดแสบปวดร้อนตามบริเวณที่กำลังจะมีผื่นขึ้นอีกด้วย นั่นก็เพราะเส้นประสาทที่อยู่บริเวณนั้นเกิดการอักเสบนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามในระยะนี้จะยังไม่สามารถยอกได้ชัดเจนว่าเป็นโรคงูสวัด ในผู้ป่วยบางคนจะมีอาการเจ็บ เสียวแปลบๆตามผิวหนัง มีอาการปวดศีรษะคล้ายปวดไมเกรน ปวดเส้นประสาทตา เป็นต้น ระยะที่สอง ในระยะนี้จะมีอาการเป็นตุ่มแดงขึ้น จากนั้นจะเริ่มกลายเป็นตุ่มน้ำพองใส ระยะที่สาม ในระยะนี้จะเป็นการเรียงตัวกันของผื่นตามเส้นประสาท โดยส่วนใหญ่จะขึ้นที่บริเวณลำตัวข้างใดข้างหนึ่ง หรือบนใบหน้าข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งในรายที่มีภูมิคุ้มกันปกติจะขึ้นเพียงข้างเดียวเท่านั้น การติดต่อของโรคงูสวัด คุณรู้หรือไม่ว่า การติดต่อของโรคงูสวัดนั้นสามารถติดต่อกันได้ผ่านทางการหายใจ และการสัมผัสกับตุ่มน้ำได้โดยตรง …

ทำความรู้จัก!! โรคงูสวัด เป็นแล้วสามารถเป็นได้อีก Read More »

ลูกเกด

ตามไปดูประโยชน์ของ “ลูกเกด” รู้แล้วควรทาน

ตามไปดูประโยชน์ของ “ลูกเกด” รู้แล้วควรทาน ตามไปดูประโยชน์ของ “ลูกเกด” รู้แล้วควรทาน อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นสิ่งที่คุณควรหามารับประทาน เพราะร่างกายของคนเราต้องได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเข้าไปซ่อมแซมส่วนต่างๆที่สึกหรอภายใน และช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากเนื้อสัตว์ นม ไข่ แล้วยังมีอาหารรูปแบบอื่นๆอีกมากมายที่จะทำให้สุขภาพของคุณดีขึ้น ซึ่งวันนี้เราก็ได้หยิบเอาอีกหนึ่งอาหารว่างที่น่าสนใจมาแนะนำกันนั่นก็คือ ลูกเกด ถือว่าเป็นอาหารว่างที่หลายคนรู้จักและนิยมรับประทานกันไม่น้อย เราไปดูกันซิว่าลูกเกดมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร และควรรับประทานอย่างไรจึงจะไม่ทำให้เกิดโทษกับร่างกาย มีไฟเบอร์สูง คุณรู้หรือไม่ว่าในลูกเกดเต็มไปด้วยไฟเบอร์ที่จะช่วยทำให้ระบบการขับถ่ายของคุณนั้นมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้กระบวนการย่อยในร่างกายยังทำงานปกติดีอีกด้วย ลูกเกดจึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก เพราะจะทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้นานกว่าเดิม อีกทั้งยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายได้เป็นอย่างดี ธาตุเหล็ก การรับประทานลูกเกดอย่างต่อเนื่องจะทำให้ร่างกายได้รับธาตุเหล็กในปริมาณหนึ่งที่ร่างกายต้องการ จึงมีประโยชนต่อร่างกายไม่น้อย และที่สำคัญลูกเกดยังมีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคโลหิตจางอีกด้วย ใครที่ไม่ชอบกินลูกเกดอยากให้ลองหันมารับประทานลูกเกดดู เพราะมันมีประโยชน์อย่างมาก แคลเซียม คุณรู้หรือว่าในลูกเกดนั้นมีแคลเซียมอยู่ด้วย การรับประทานลูกเกดจะช่วยทำให้คุณบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง โดยเฉพาะในหญิงวัยหมดประจำเดือนการรับประทานลูกเกดจะช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนได้เป็นอย่างดี สารต้านอนุมูลอิสระ มีหน้าที่ปกป้องเซลล์ต่างๆ ของร่างกายไม่ให้ถูกทำลายจากสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเราจะพบสารต้านอนุมูลอิสระตามผักและผลไม้ทั่วไปอยู่แล้ว แต่ในลูกเกดก็มีสารต้านอนุมูลอิสระเช่นกัน นอกจากนี้แล้วลูกเกดยังช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองได้อีกด้วย ดีต่อสุขภาพช่องปาก เพราะลูกเกดช่วยลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดฟันผุและปัญหาในช่องปากต่างๆ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน นั่นก็เพราะการรับประทานลูกเกดจะช่วยลดระดับอินซูลินในร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ ไม่พุ่งสูงเกินไปนั่นเอง ถือว่าเป็นอาหารสุขภาพอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ ข้อควรระวังในการรับประทานลูกเกด จะต้องระมัดระวังสักหน่อย เพรามีรสชาติหวานการรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้น้ำหนักพุ่งสูงขึ้นได้นั่นเอง นอกจากนี้ในรายที่มีอาการแพ้ก็จะต้องระมัดระวังเช่นกัน เพราะฉะนั้นถ้าแพ้ก็ไม่ควรรับประทาน เป็นอย่างไรกันบ้างกับประโยชน์ของลูกเกดที่เรานำมาฝากกัน …

ตามไปดูประโยชน์ของ “ลูกเกด” รู้แล้วควรทาน Read More »