การลดน้ำหนัก สัมพันธ์กับ การหายใจ อย่างไร?

การลดน้ำหนัก สัมพันธ์กับ การหายใจ อย่างไร ช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักวิจัยได้ค้นพบการเชื่อมโยงระหว่างสภาพจิตใจและการทำงานของลำไส้ ดร.โรเจอร์ อดัมส์ ผู้ฝึกสอนและนักโภชนาการอาหาร เจ้าของ eatrightfitness กล่าวว่า ความเครียดทางจิตใจและอารมณ์ อาจนำไปสู่ปัญหาระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูก ท้องร่วง หรือกระตุ้นให้เกิดอาการลำไส้แปรปรวน นอกจากนี้ ยังพบว่าการหายใจที่ถูกต้องช่วยในการลดน้ำหนักได้อีกด้วย

การหายใจช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไรนั้นพบว่ามีดังนี้

ช่วยลดไขมันหน้าท้องที่เกิดจากความเครียด
Ashley Matejka ผู้ฝึกสอนที่ได้รับการรับรองจาก NASM อธิบายว่า สภาพจิตใจมีความสัมพันธ์กับการลดไขมันหน้าท้อง เพราะการได้รับคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนความเครียดมากเกินไปจะกระตุ้นให้เกิดการกักเก็บไขมันหน้าท้อง ดังนั้น การหายใจนอกจากจะช่วยในการทำสมาธิแล้ว ยังช่วยควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจและลดความดันโลหิต นอกจากนี้ยังพบว่าความตึงเครียดทำให้เกิดความแปรปรวนในระบบการย่อยอาหารอีกด้วย

การฝึกสติและการหายใจ มีประโยชน์ช่วยลดระดับคอร์ติซอลในร่างกาย เมื่อฝึกฝนการหายใจควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง จะช่วยลดน้ำหนักได้มากเช่นเดียวกัน การหายใจอย่างมีสติจะช่วยลดความอยากอาหารขยะซึ่งมีแคลอรี่สูง และข้อมูลนี้ได้รับการสนับสนุนจากผลการวิจัยที่พบว่าการฝึกเจริญสติช่วยลดน้ำหนักในผู้เป็นโรคอ้วนได้ดี

ดร.โรเจอร์ อดัมส์ กล่าวว่า การหายใจช้า ๆ ชะลอการสร้างฮอร์โมนความเครียด หากเรามีวิธีหายใจถูกต้องจะช่วยควบคุมการตอบสนองต่อความเครียดของร่างกายได้มากขึ้น และการกักเก็บไขมันจะทำได้ต่ำลง
ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
เมื่อฝึกหายใจอย่างต่อเนื่องจะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อบริเวณท้อง ในขณะที่การออกกำลังกายส่วนใหญ่จะช่วยในการเผาผลาญไขมันตามส่วนต่าง ๆ หากออกกำลังกายเป็นประจำควบคู่ไปกับการหายใจที่ถูกต้องจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อบริเวณท้องให้มีความแข็งแรง เพราะการกำหนดลมหายใจเข้า – ออกกล้ามเนื้อส่วนท้องจะยุบและขยายทำให้กระชับขึ้น
ช่วยให้ออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.อดัมส์ กล่าวว่า กล้ามเนื้อทางเดินหายใจมีบทบาทในการช่วยกำจัดสารพิษในร่างกายของเรา เพิ่มจำนวนของเซลล์ประสาท และปรับปรุงอัตราการเผาผลาญไขมัน การออกกำลังกายเป็นประจำนอกจากจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังช่วยเพิ่มอัตราการขับเซลล์ไขมันผ่านปอด ทำให้กะบังลมแข็งแรง และสามารถออกกำลังกายได้นานขึ้นและเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น เช่น การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ให้หายใจจากกะบังลมโดยการเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องขณะหายใจเข้า-ออก เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดน้ำหนักได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม การลดน้ำหนักด้วยการหายใจอย่างถูกต้อง ควรทำควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นปัจจัยนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของไขมัน เท่านี้คุณก็สามารถลดน้ำหนักได้แล้ว