เคล็ดลับในการกินเพื่อต้านมะเร็ง
เคล็ดลับในการกินเพื่อต้านมะเร็ง
การกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นปัจจัยพื้นฐานของการมีสุขภาพที่ดี รวมถึงการลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งด้วย ซึ่งการกินเพื่อต้านมะเร็งมีเคล็ดลับดังต่อไปนี้
ลดปริมาณสารพิษ
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากธรรมชาติและไม่มีสารเคมีเจือปน เพราะผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ในชีวิตประจำวันมีส่วนประกอบของสารเคมีซึ่งนำไปสู่การเกิดมะเร็ง เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทำความสะอาดช่องปาก ผิวหนัง เส้นผม เครื่องสำอาง น้ำยาทำความสะอาดในครัวเรือน และอื่น ๆ อีกมากมาย ล้วนเต็มไปด้วยสารก่อมะเร็งลดยาบางชนิดที่มีส่วนผสมของอะซิตามิโนเฟนในปริมาณสูงเพราะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคตับ
หลีกเลี่ยงการใช้พลาสติก เช่น ภาชนะพลาสติก แรปพลาสติก เยื่อบุกระป๋องโลหะ และภาชนะกระดาษแข็ง เนื่องจากสิ่งเหล่านี้มีสารประกอบที่ขัดขวางการทำงานของระบบประสาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพลาสติกได้รับความร้อน เช่น การเวฟอาหาร หรือแม้แต่ขวดน้ำที่ถูกทิ้งไว้ในรถก็เสี่ยงต่อการเจือปนของสารเคมีลางสารพิษในร่างกายด้วยวิธีดีท็อกซ์ทุก 2-3 เดือน เพื่อกำจัดสารเคมีตกค้าง ด้วยการใช้สมุนไพรจากธรรมชาติ เช่น การดื่มน้ำผักและผลไม้ที่ช่วยกำจัดสารพิษตกค้างในร่างกาย
แม้ว่าไฟเบอร์จากผักและผลไม้จะมีประโยชน์ต่อร่างกายและมีส่วนสำคัญในการย่อยอาหารตลอดจนช่วยกำจัดสารพิษตกค้างในร่างกาย แต่การกินไฟเบอร์ที่มากเกินไปอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ดังนั้น จึงไม่ควรกินไฟเบอร์จากผักใบเขียวเพียงอย่างเดียว แต่ควรกินเมล็ดธัญพืช หรืออาหารที่มีไฟเบอร์ชนิดอื่น ๆ ด้วยเพื่อให้ได้สารอาหารที่หลากหลาย
ดื่มน้ำสะอาด
หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำประปา เนื่องจากอาจมีการปนเปื้อนของสารเคมี โลหะหนัก ฮอร์โมนบางชนิด และสารพิษอื่น ๆ ที่เจือปนมากับน้ำได้ ขณะเดียวกันการดื่มน้ำดื่มบรรจุขวดก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีการเจือปนของสิ่งแปลกปลอม วิธีที่ดีที่สุดในการดื่มน้ำสะอาดคือ การใช้เครื่องกรองน้ำ เพื่อกำจัดคลอรีน ฟลูออไรด์ และสารพิษอื่น ๆ ออกจากน้ำที่คุณดื่มและใช้ปรุงอาหารด้วย
หลีกเลี่ยงการปรุงอาหารด้วยอุณหภูมิสูงและอาหารไหม้
หลีกเลี่ยงอาหารทอด อาหารจานด่วน อาหารแปรรูปต่าง ๆ เพราะอาหารเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะสร้างสารอะคริลาไมด์ซึ่งเป็นโทษต่อร่างกาย ในทางกลับกันการต้มและนึ่งมีปริมาณสารอะคริลาไมด์น้อยกว่า นอกจากนี้การใช้เวลาในการปรุงอาหารมากขึ้นและการใช้อุณหภูมิสูงขึ้นในการปรุงอาหารสามารถเพิ่มปริมาณอะคริลาไมด์ในอาหารได้มากขึ้นเช่นกัน
หลีกเลี่ยงธัญพืชแปรรูปและอาหารที่มีน้ำตาลสูง
อาหารที่มีน้ำตาลสูงสลายตัวได้ยากและทำให้เกิดปัญหากับลำไส้ ยิ่งอาหารมีการแปรรูปมากเท่าใดก็ยิ่งเป็นอันตรายมากขึ้นเท่านั้น ขณะที่น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ (รวมถึงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล) แป้งสาลี พาสต้าบรรจุกล่อง อาหารเย็นแช่แข็ง ชีสผง และน้ำมันพืชที่ผ่านความร้อน เป็นสาเหตุของการเกิดโรคและความผิดปกติต่าง ๆ ของร่างกาย
ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลี ถั่วเหลือง และข้าวโพด นิยมนำมาดัดแปลงให้เป็นอาหารแปรรูปมากที่สุด และทำให้เกิดอาการแพ้อาหารสูงขึ้นซึ่งอาจเสี่ยงต่ออาการลำไส้รั่วและการดูดซึมสารอาหารที่ไม่เหมาะสม อาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยยาฆ่าแมลงและโลหะหนัก เมล็ดพันธุ์ได้รับการดัดแปลงพันธุกรรมโดยเฉพาะถั่วเหลือง หากคุณไม่อยากเป็นมะเร็งจงหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปจากถั่วเหลือง
กินอาหารต้านมะเร็งมากขึ้น
อาหารต้านมะเร็งที่ควรกินเป็นประจำ ได้แก่ ผักตระกูลกะหล่ำ เช่น บรอกโคลี กะหล่ำปลี และผักคะน้า เพราะเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ เต้านม ลำไส้ใหญ่ ต่อมลูกหมาก กระเพาะอาหารและมะเร็งทวารหนัก
กินอาหารที่มีวิตามินเอสูง ได้แก่ ตับ แครอท มันเทศ ผักคะน้า ผักโขม ไข่ เป็นต้น และกินอาหารที่มีวิตามินซีสูง ได้แก่ เบอร์รี่ พริก ส้ม มะละกอ ฝรั่ง บร็อคโคลี คะน้า กะหล่ำปลี ถั่วลันเตา และกะหล่ำดอก อีกทั้งควรบริโภคอาหารที่มีแคลเซียมสูงร่วมกับวิตามินดี เนื่องจากแคลเซียมช่วยต้านมะเร็งได้แต่จะทำงานได้ดีเมื่อมีวิตามินดีมาช่วยเรื่องการดูดซึม
กระเทียม หัวหอม และกุ้ยช่าย ช่วยในการต้านเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันดีเอ็นเอ และหยุดยั้งการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง ขณะที่ชาเขียวมีโพลีฟีนอลและสารต้านอนุมูลอิสระช่วยทำลายเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว หยุดการเพิ่มจำนวนของเซลล์ที่ผิดปกติ และชาอู่หลงมีธีโอฟิลลีนและธีโอโบรมีน (เช่นเดียวกับในชาเขียว) ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งหลายชนิด
