ทำความรู้จัก!! โรคงูสวัด เป็นแล้วสามารถเป็นได้อีก

ทำความรู้จัก!! โรคงูสวัด เป็นแล้วสามารถเป็นได้อีก


ทำความรู้จัก!! โรคงูสวัด เป็นแล้วสามารถเป็นได้อีก

การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ คือสิ่งที่เราควรทำ เพราะถ้าหากเราปล่อยให้ร่างกายอ่อนแอก็จะทำให้เกิดโรคต่างๆมากมาย ในรายที่โชคดีก็จะเป็นโรคธรรมดา เช่น ไข้หวัด ไอ จาม มีน้ำมูกเล็กน้อย แต่ในรายที่โชคร้ายไม่เคยดูแลสุขภาพของตัวเองเลยก็อาจจะเจอกับโรคร้ายแรงที่เข้ามาเยือนโดยที่คุณไม่ทันได้ตั้งตัว

และวันนี้เราก็ได้นำเอาอีกหนึ่งโรคที่ควรรู้จัก และมันมักจะหลบอยู่ตามปมประสาท รอวันกลับมาแสดงอาการอีกครั้งเมื่อร่างกายของคุณอ่อนแอ นั่นก็คือ โรคงูสวัด ว่าแต่จะรายละเอียดอะไรบ้างที่น่าสนใจไปดูกันเลยจ้า

โรคงูสวัด คืออะไร

โรคงูสวัด คืออะไร?

โรคงูสวัด เกิดจากเชื้อไวรัสตัวเดียวกันกับอีสุกอีใส ซึ่งเมื่อเป็นแล้วไวรัสจะหลบอยู่ตามปมประสาทในร่างกาย เมื่อร่างกายอ่อนแอก็จะแสดงอาการออกมาอีกครั้ง

อาการของโรคงูสวัด แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้

  1. ระยะแรก ผู้ป่วยจะมีอาการปวดเมื่อยตามส่วนต่างๆของร่างกาย และยังมีอาการปวดแสบปวดร้อนตามบริเวณที่กำลังจะมีผื่นขึ้นอีกด้วย นั่นก็เพราะเส้นประสาทที่อยู่บริเวณนั้นเกิดการอักเสบนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามในระยะนี้จะยังไม่สามารถยอกได้ชัดเจนว่าเป็นโรคงูสวัด ในผู้ป่วยบางคนจะมีอาการเจ็บ เสียวแปลบๆตามผิวหนัง มีอาการปวดศีรษะคล้ายปวดไมเกรน ปวดเส้นประสาทตา เป็นต้น
  2. ระยะที่สอง ในระยะนี้จะมีอาการเป็นตุ่มแดงขึ้น จากนั้นจะเริ่มกลายเป็นตุ่มน้ำพองใส
  3. ระยะที่สาม ในระยะนี้จะเป็นการเรียงตัวกันของผื่นตามเส้นประสาท โดยส่วนใหญ่จะขึ้นที่บริเวณลำตัวข้างใดข้างหนึ่ง หรือบนใบหน้าข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งในรายที่มีภูมิคุ้มกันปกติจะขึ้นเพียงข้างเดียวเท่านั้น
การติดต่อของโรคงูสวัด

การติดต่อของโรคงูสวัด

คุณรู้หรือไม่ว่า การติดต่อของโรคงูสวัดนั้นสามารถติดต่อกันได้ผ่านทางการหายใจ และการสัมผัสกับตุ่มน้ำได้โดยตรง เพราะฉะนั้นผู้ที่ดูแลผู้ป่วยจะต้องรักษาความสะอาดของตนเองอยู่เสมอและต้องมีการป้องกันในเรื่องของการหายใจด้วย

สำหรับรายที่ได้รับเชื้อตัวนี้เข้าไปแล้วแต่ยังไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อนก็จะแสดงอาการออกมาเพียงแค่โรคอีสุกอีใส แต่ถ้าหากเคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อนแล้วและได้รับเชื้อตัวนี้เข้าไป เชื้อก็จะไปหลบอยู่ที่ปมประสาทของร่างกาย รอเวลาที่ร่างกายอ่อนแอ ก็จะแสดงอาการของโรคงูสวัดออกมานั่นเอง

เพราะฉะนั้นในกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันต่ำเช่น ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์และเด็ก ควรระมัดระวังอย่างมากและจะต้องมีการดูแลตัวเองให้ดี เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสตัวนี้ นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคเอดส์ โรคมะเร็ง ก็มีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคงูสวัดทั้งสองข้างตามแนวเส้นประสาท

เป็นอย่างไรกันบ้างกับโรคงูสวัดที่เรานำมาฝากกัน ใครที่เคยเป็นโรคงูสวัดมาก่อนแล้วและรักษาหายเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็อย่าชะล่าใจว่ามันจะไม่กลับมาเป็นอีก เพราะโรคนี้มันจะหลบอยู่ตามส่วนต่างๆของปมประสาท เมื่อใดที่ร่างกายของคุณอ่อนแอมันจะกลับมาแสดงอาการทันที เพราะฉะนั้นควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาร่ากายให้แข็งแรงจะดีที่สุด

Tag ที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง