การกินคีโต Keto และ IF คืออะไร
การกินคีโต Keto และ IF คืออะไร
เป็นที่ทราบกันดีว่าการกินคีโต Keto เป็นการลดน้ำหนักด้วยวิธีเน้นการรับประทานอาหารประเภทไขมันดี (HDL – High Density Lipoprotein) ซึ่งอาหารหลักของการลดน้ำหนักแบบคีโตจะต้องมีสัดส่วนของอาหารไขมันสูง 60-75% อาหารประเภทโปรตีน 15-30% และคาร์โบไฮเดรต 5-10% ของแคลอรี่ทั้งหมดที่ร่างกายได้รับต่อวัน
ข้อดีของการกินคีโต Keto คือ ร่างกายจะเปลี่ยนการเผาผลาญพลังงานที่ได้จากแป้งและน้ำตาล เปลี่ยนมาเป็นการเผาผลาญพลังงานจากไขมันที่ร่างกายกักเก็บเอาไว้มาใช้งานแทน อันเป็นการเผาผลาญพลังงานจากไขมันส่วนเกินที่มีประสิทธิภาพที่สุด เมื่อร่างกายบริโภคแป้งและน้ำตาลน้อย ตับก็จะไม่หลั่งอินซูลินออกมาเพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือด ทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะคีโตน (Ketone)
ผลลัพธ์ที่ได้ คือ ร่างกายไม่อ่อนเพลีย หรือเหนื่อยล้า และยังช่วยลดน้ำหนักด้วยการเผาผลาญไขมันส่วนเกินด้วย ขณะเดียวกันพบว่าผลข้างเคียงจากการเริ่มต้นกินคีโต Keto ในระยะแรก หากเริ่มต้นอย่างเข้มข้นมักพบอาการผื่นแดงขึ้นตามร่างกาย แต่ก็พบได้น้อยรายมาก
สำหรับการลดน้ำหนักด้วยการกินคีโต Keto จะช่วยให้การลดน้ำหนักเห็นผลในช่วง 3-6 เดือนแรก แต่จะสามารถเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว เมื่อทำร่วมกับ Intermittent Fasting หรือ (IF) ซึ่งจะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็วกว่าการกินคีโตเพียงอย่างเดียว
การ กินคีโต Keto และ IF คืออะไร
เป็นวิธีการกินคีโต Keto ผสมผสานกับการทำ IF ซึ่งเป็นการจำกัดช่วงเวลาในการรับประทานอาหาร โดยหลักการสำคัญของการทำ IF คือ การไม่รับประทานอาหารในระยะเวลาที่กำหนดเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายดึงพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลไปใช้ให้มากที่สุด หลังจากนั้นร่างกายจึงจะดึงไขมันมาใช้งานแทน
ขณะที่หลักการทำงานของ IF ประกอบด้วย การกินเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นและหยุดกินเมื่อพระอาทิตย์ตก กินแป้งให้น้อย แต่เน้นการกินเนื้อสัตว์และไขมันเป็นหลัก ออกกำลังกายในขณะที่ท้องว่าง เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญมากขึ้น
สำหรับการทำ IF นั้นมีหลายสูตร ดังนี้
1. กินคีโต 5 วัน และอดกิน 2 วัน
2. กินคีโตแบบนับชั่วโมง เช่น 16/8 ซึ่งใน 24 ชั่วโมง ให้ทำการอดอาหาร 16 ชั่วโมงติดกัน และกิน 8 ชั่วโมงโดยสูตรนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และแบบ 20/4 ซึ่งเป็นการอดอาหาร 20 ชั่วโมง และกินเพียง 4 ชั่วโมง เป็นต้น
ผลลัพธ์ในการลดน้ำหนักจะทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้นหากกินคีโต Keto ร่วมกับการทำ IF เพราะจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันที่ถูกหับเก็บไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่การกินคีโตจะช่วยระงับ ghrelin ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกหิว หากร่างกายมีฮอร์โมนดังกล่าวมากเกินไปอาจทำให้กินจุกจิกจนน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม นอกจากกินคีโต Keto ร่วมกับการทำ IF แล้ว ควรออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นการเผาผลาญและทำให้ร่างกายแข็งแรงด้วย อีกทั้งยังเป็นการกระชับกล้ามเนื้อ เมื่อร่างกายเกิดการเผาผลาญไขมันและน้ำหนักลดลงทำให้ร่างกายไม่หย่อนคล้อย